เบื้องต้นของการดูแลยานยนต์

หลายคนอาจจะสนใจในเรื่องของการขับรถ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ชำนาญในด้านของการดูแลรถยนตร์เบื้องต้น ซึ่งวลีที่เขาว่ากันว่า ‘กันไว้ดีกว่าแก้’ ซึ่งเป็นความจริงเสมอ เราควรเรียนรู้วิธีการป้องกันดีกว่าให้เกิดความเสียหายในภายหลัง อย่างน้อยได้รู้การป้องกัน การดูแลเบื้องต้นเพื่อที่จะเพิ่มอายุการใช้งาน และสมรรถนะรถของคุณก็ยังดี 

เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งอาจเป็นอันตราย ให้คุณได้สามารถปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษารถได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นเราไปดู ตรวจสอบการซ่อมบำรุงขั้นพื้นฐานของนถยนตร์กันดีว่า เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ของคุณกัน

สิ่งที่ควรตรวจสอบสภาพรถในระยะสั้น

-น้ำมันเครื่อง

คุณอาจต้องเปลี่ยนทั้งน้ำมัน และ ไส้กรองทุกๆ 3 เดือนหรือ 10,000 กม. เพราะนั่นคือหล่อลื่นชิ้นส่วนที่ใช้เคลื่อนไหว, ช่วยทำหน้าที่ชะล้างเศษสิ่งสกปรก, ทำให้เครื่องยนต์เย็นลง, ลดการสึกหรอ และ ช่วยป้องกันการกัดกร่อนของเครื่องยนต์

-ระดับน้ำมัน และ น้ำหล่อเย็น

เครื่องยนต์ของคุณหรือความเสียหายอาจเกิดขึ้นระหว่างทางได้ เนื่องจากของเหลวที่อยู่ในใต้ฝากระโปรงรถนั้นมีระดับต่ำ อาจก่อให้เกิดการนำไปสู่ความเสียหายอย่างมากได้ เพราะฉะนั้นก่อนการเดินทาง เราจึงควรตรวจดูใต้ฝากระโปรงรถเสมอเพื่อตรวจสอบระดับน้ำมัน และ น้ำหล่อเย็น

-การสลับยาง

การสลับยางจะช่วยยืดอายุการใช้งานโดยการปรับสมดุลการสึกหรอของดอกยาง และช่วยป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือน

-ความดันลมยาง

เราควรเติมลมยางให้มีความดันที่พอดี ไม่มากไปหรือน้อยไป ตาทตัวเลขที่ระบุไว้บนยางคือจำนวนความดันสูงสุดที่ยางสามารถบรรจุได้ เพราะยางมีความดันลมที่มากไปอาจทำให้ยางระเบิดได้ และถ้าหากแรงดันลมยางที่น้อยเกินก็อาจส่งทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และ ยางจะร้อนขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

-ไส้กรองอากาศ

ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวกรองอากาศของคุณทำงานอย่างถูกต้อง เพราะมีหน้าที่ในการควบคุมการไหลเวียนของอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์ของคุณ และป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเข้ามาในรถของคุณ เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยคุณสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง, ลดการปล่อยมลพิษได้

-ไฟรถยนต์

สิ่งนี้มักถูกมองข้ามอยู่เสมอ ๆ เราควรที่จะตรวจสอบอยู่ตลอดว่าไฟหน้ายังดีอยู่ไหม หรือสัญญาณอะไรยังสามารถใช้งานได้ปกติหรือเปล่า โดยการเราอาจจะเปิดปิดไฟทดลองอยู่บนรถ แล้วให้คนลงไปดูว่าทุกอย่างสามารถใช้งานได้ปกติไหม สว่างพอไหมทำนองนี้

สิ่งที่ควรตรวจสอบสภาพรถในระยะยาว

-โช๊ค และ สตรัท 

เมื่อคุณสังเกตเห็นความนุ่มนวลที่ลดลง หรือการรับแรงกระแทกของลูกระนาดที่ไม่เหมือนเดิม สูญเสียการควบคุมขณะขับขี่ คุณควรที่จะควรได้รับการตรวจสอบโดยมืออาชีพทุกๆ 100,000 กม.

-สายพานเซอร์เพนไทน์ 

สิ่งนี้สามารถตรวจสอบได้ด้วยสายตา ตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยแตก หรือ การสึกหรอ และหมั่นที่จะเปลี่ยนตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ของคุณ

-หัวเทียน 

เป็นสิ่งที่ควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อเปลี่ยนหัวเทียน เพราะว่าหากหัวเทียนทำงานอย่างไม่ถูกต้องเครื่องยนต์ของคุณอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หัวเทียนในรถของคุณใช้ในการจุดประกายไฟระหว่างแก๊ส และ ส่วนผสมของอากาศที่เพิ่มพลังให้กับรถของคุณนั่นเอง 

-ชุดเฟืองท้ายด้านหน้า และ ด้านหลัง 

ชุดเฟืองท้ายเป็นอุปกรณ์ที่แยกแรงบิดจากเครื่องยนต์ และ ส่งกำลังไปยังยางรถยนต์ และจำเป็นที่จะต้องได้รับการหล่อลื่นอยู่และเปลี่ยนของเหลวทุกครั้งที่จำเป็นอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้ปกติ

-น้ำยาหล่อเย็น

การล้างระบบน้ำหล่อเย็นเป็นประจำจะช่วยกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่สามารถสะสมอยู่ภายใน และ ทำให้หม้อน้ำของคุณอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณเย็น และ ทำงานได้อย่างถูกต้อง

-น้ำมันเกียร์

เช่นเดียวกับน้ำมันเครื่องของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการตรวจสอบ และ เปลี่ยนของเหลวนี้ทุกครั้งที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่รุนแรงบนท้องถนน ไมาว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติก็ตาม

-น้ำมันกระปุกเกียร์

เพื่อป้องกันให้แน่ใจว่ามีการเติมอย่างถูกต้อง และ ไม่มีการรั่วไหล เพราะ กระปุกเกียร์เป็นสิ่งที่เปลี่ยนกำลังจากเกียร์ไปยังเพลา คุณควรจะตรวจสอบน้ำมันกระปุกเกียร์ตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์หรือให้ผู้มีความชำนาญในด้านนี้นำไปตรวจสอบ 

•กันไว้ดีกว่า

การเช็คสภาพรถก่อนการออกไปขับขี่ถือเป็นเรื่องของความปลอดภัยที่เราควรหมั่นตรวจสอบสภาพอยู่ตลอดเวลา ทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตามแต่ เราควรจะเช็คสภาพรถยตน์ขั้นพื้นฐานนี้อยู่เรื่อย ๆ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่มั่นคง ตามวลี ‘กันไว้ดีกว่าแก้’ นั้นเอง