สำหรับใครที่กำลังคิด ๆ ว่าจะขายรถ
ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง มีจุดเริ่มต้นและจุดของการอิ่มตัว ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามก็มักจะมีเวลาหรืออายุขัยแอบอยู่ในตัวมันเอง จะเป็นสิ่งของ จะเป็นสัตว์ หรือจะเป็นคน ก็มักจะมีการเปลี่ยนแปลงกันอยู่เสมอ ๆ ซึ่งรถยนต์เองก็ไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่ารถยนต์จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ในระยะยาว โดยเฉพาะรถจากค่ายญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามก็มีอายุขัยและ ความไม่เหมือนเดิมอยู่ดีจากตอนแรก ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ หรืออะไหล่ในรถทุกส่วนก็ล้วนมีขีดจำกัด ดังนั้นมันคงจะเป็นการดีกว่า ถ้าเราเอาอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมออกไป ตัดบ้าง ทิ้งบ้าง ขายบ้าง ต่อให้รักรถคันปัจุบันแค่ไหนแต่ถ้ามันถึงเวลาของการบอกลาแล้วก็คงต้องตัดใจ เพื่อป้องกันปัญหาอะไรต่าง ๆ ที่ตามมาในภายหลัง ถ้าเป็นเช่นนั้น มาดู 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าได้เวลาขายรถแล้วกันดีกว่า
สัญญาณ 5 อย่างที่เรียกร้องว่าถึงเวลาขายรถแล้ว
1 เวลาที่มีข่าวการเปิดโมเดลใหม่
เพราะช่วงเวลาที่มีข่าวการเปิดโมเดลใหม่ มักจะมีกลุ่มที่มองหารถรุ่นเก่าที่นำมาขายในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่รถรุ่นเดิมนั้นราคาจะตกลงมาหน่อยจากตอนแรก ทำให้ได้ในราคาที่ดีกว่าในช่วงอื่น ส่วนผู้ขายก็จะสามารถขายออกไปได้อย่างรวดเร็ว เป็นช่วงของการขายที่เหมาะสมกว่าช่วงไหน ๆ ถือว่าดีต่อทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพราะในทุก ๆ 5-8 ปีจะมีการเปลี่ยนโฉม หรือ Gen (Generation) ใหม่อยู่ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับค่ายรถ ไม่นับ Minor Change ที่มีการปรับปรุงและปรับแต่งชิ้นส่วนหน้าตาเพียงเล็กน้อย และการที่มีข่าวออกโฉมใหม่ ไม่ว่าจะ Minor Change หรือ Model Change (Gen) ก็มีผลให้ราคาขายต่อตกลงรวดเร็วหรือมากกว่าเดิม
2 เมื่อระยะทางสะสมถึง 100,000 กิโลเมตร
ว่ากันว่าการซื้อรถมือสองอายุประมาณ 2 ปี จะได้รถที่สภาพดี ราคากำลังโอเค แต่สำหรับคนที่จะขายรถ หากรถใช้งานมาได้ 4 – 5 ปี รถจะเริ่มต้องการการซ่อมแซมเยอะแล้ว เป็นช่วงที่ควรขายออกเพื่อป้องกันปัญหาราคาตกเพิ่มกว่าจากตอนแรก แล้วตัวกำหนดราคาขายได้นั้น สามารถตัดสินได้จากระยะทางของการวิ่ง ดูจากระยะทางวิ่งสะสม เลขไมล์ โดยปกติแล้วรถทั่วไปจะต้องมีการเปลี่ยนอะไหล่ อย่างหัวเทียน ยาง ผ้าเบรก และอื่นๆ ที่ระยะประมาณ 40,000 กิโลเมตร
3 หากค่าซ่อมเริ่มสูงเกินไป
และแน่นอนว่าทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อคนเราใช้งานรถไปเรื่อย ๆ ก็ต้องมีบางอย่างที่ต้องการได้รับความดูแล โดยเฉพาะชิ้นส่วนหลักของรถยนตร์ อย่างชุดเกียร์และเครื่องยนต์ที่ต้องการการซ่อมบำรุง ซึ่งการซ่อมเครื่องยนต์นอกเหนือจากบริเวณฝาสูบ และชุดเกียร์หากเสียหายหนักต้องทำการยกเครื่อง หรือ Overhaul ที่มีค่าใช้จ่ายสูงมากในการซ่อมดังกล่าวไม่ว่าจะตัวอะไหล่เองหรือค่าแรงก็ตาม และยังไม่น่วมถึงชิ้นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ องค์ประกอบในรถที่ก็ต้องการการซ่อมบำรุงหรือสับเปลี่ยนอีก
4 ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน สวนทางกับสไตล์รถยนตร์
บางอย่างที่เคยใช่ แต่ในตอนนี้อาจจะไม่ใช่แล้วก็ได้ รถที่เคยเป็นของเราคนเดียวแต่ในวันนี้อาจจะต้องเป็นรถของครอบครัว ที่เอาไว้ไปรับไปส่งพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ลูกหลาน ก็อาจทำให้การขับขี่แบบที่เคยเป็นกลายเป็นความไม่เหมาะกับสไตล์ในชีวิตประจำวันอีกแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้หากเราไม่สามารถที่จะครอบครองรถได้หลายคัน การไปหารถคันใหม่ที่เหมาะสมกว่า ที่ใช่กว่า ก็อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับในการการตัดสินใจที่จะขายรถ
5 เมื่อสภาพยังสวยงาม สมบูรณ์อยู่
และแน่นอนว่าหากรถของคุณยังมีสภาพดีสมบูรณ์อยู่ มีสิทธิ์ที่จะขายได้ในราคาที่ดีและขายออกได้ไว เพราะเราทุกคนก็มักจะชอบของที่สมบูรณ์ที่มองได้จากภายนอก ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าหากรถของตุณยังมีสภสพที่ดีอยู่ ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุที่ควรจะขาย สภาพภายนอกดี ภายในขับได้ปกติ เพราะถ้าหากขายตอนที่เริ่มมีส่วนที่พัง ต้องการการซ่อมบำรุงแล้ว ราคาก็คงตกไปตามส่วนต่างที่ผู้ซื้อจะต้องออกเงินซ่อมแซม ทำให้ราคาขายของเรานั้นอาจจะไม่คุ้มทุนมากนัก เพราะฉะนั้นถ้าหากกำลังคิดว่าจะขาย ก็ให้ขายตอนในสภาพที่ยังดีอยู่ไปเลย
ขายเลย ไม่ต้องลังเล
การที่จะขายรถนั้นมีหลายปัจจัยที่เป็นเหตุทำให้คิดจะขายรถ หลายสิ่งหลายอย่างอาจเป็นเพราะในช่วงเวลาที่ไม่ใช่, ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป, การเปลี่ยนแปลงที่ได้เกิดขึ้น, หรือความอยากได้ใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามา แต่หากมีความคิดที่จะขายแล้วก็อย่าได้ลังเลที่จะขายเลย เพราะถ้ายิ่งปล่อยเวลาให้นานขึ้น สิ่งที่ได้กลับมาก็คือราคาที่จะค่อย ๆ ตกลงเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากกำลังคิดว่าจะขาย และมีสัญญาณ 5 อย่างดังข้างต้น ก็ขายไปเลยยังดีกว่า